เช็คลิสต์ 5 สิ่งสำคัญต้องเตรียมให้พร้อมก่อนเปิดร้านกาแฟ!


เช็คลิสต์ 5 สิ่งสำคัญต้องเตรียมให้พร้อมก่อนเปิดร้านกาแฟ!
การเปิดร้านกาแฟไม่ได้เป็นเรื่องน่ากลัวเสมอไปหากเรามีการเตรียมพร้อมที่ดี ทั้งในเรื่องการวางแผนธุรกิจ
และการจัดการระบบภายในร้าน แต่หนึ่งในขั้นตอนสำคัญของการเตรียมตัวเปิดร้านกาแฟคือ การเตรียมอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้พร้อม!
1.อุปกรณ์และเครื่องชงกาแฟ
แน่นอนว่าอุปกรณ์สำคัญอันดับหนึ่งของการเปิดร้านกาแฟคงไม่พ้นอุปกรณ์และเครื่องชงกาแฟ
ทั้งเครื่องทำกาแฟเอสเปรซโซ ทั้งเครื่องดริปกาแฟ จนไปถึงเครื่องบดเมล็ดกาแฟที่เราอาจเห็นร้านกาแฟหลายร้านใช้กัน
เจ้าของร้านควรให้ความสำคัญกับการเลือกอุปกรณ์เหล่านี้เป็นอย่างมาก ไม่ได้ส่งผลในเรื่องรสชาติมากนัก
แต่เป็นเรื่องของคุณภาพในการทำงานซะมากกว่า เครื่องชงกาแฟแต่ละประเภทมีความแตกต่างกัน
อยู่ที่ว่าจุดประสงค์ในการใช้งานคือสำหรับครัวเรือนหรือการทำธุรกิจ
สำหรับร้านกาแฟที่ต้องการเสิร์ฟกาแฟหลายแก้วต่อวัน ควรเลือกเครื่องชงกาแฟที่มีขนาดใหญ่
มีความเสถียรในการชง แรงดันและอุณหภูมิน้ำต้องสม่ำเสมอ ต้องมั่นใจได้ว่าสามารถรองรับการชงกาแฟหลายสิบแก้ว
ในช่วงเวลาตอนเช้าที่อาจมีลูกค้ามาสั่งกาแฟเยอะเป็นพิเศษได้
2.เครื่องปั่น
ราคาของเครื่องปั่นก็มีหลายแบรนด์หลายราคา สามารถใช้ได้ทั้งในธุรกิจขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่
แนะนำให้เลือกเครื่องปั่นสมูทตี้แบบมอเตอร์กำลังวัตต์ 1,500 วัตต์ขึ้นไป ราคาเพียงสองพันกว่าบาทเท่านั้น!
3.ตู้เก็บความเย็น
ซึ่งตู้เก็บความเย็นไม่ได้มีเพียงแค่ตู้สำหรับใส่เค้กหรือเบเกอรีที่ตั้งโชว์บริเวณเคาน์เตอร์ร้านเท่านั้น
แต่ยังมีระบบเก็บความเย็นที่อยู่หลังเคาน์เตอร์อีกเช่นกัน การจัดการระบบตู้เก็บความเย็นเหล่านี้
จึงต้องคำนึงถึงเรื่องการออกแบบ เพราะนอกจากจะเป็นเรื่องของความสวยงามของตู้โชว์แล้ว
ยังเป็นการออกแบบเพื่อการทำงานที่สะดวกของพนักงานหรือบาริสต้าอีกด้วย
4.กล่องเก็บวัตถุดิบและขวดปั๊มส่วมผสม
เพราะร้านกาแฟต้องใช้เมล็ดกาแฟหรือแม้แต่ส่วนผสมที่ใช้กับเครื่องดื่ม อย่างท็อปปิ้งหรือน้ำเชื่อมไซรัปต่าง ๆ
เราจึงไม่ควรละเลยเรื่องการเก็บรักษาส่วนผสมและวัตถุดิบเหล่านี้ โดยเฉพาะเมล็ดกาแฟที่ควรเก็บถุงกาแฟเป็นหลัก
เพราะมีฟรอยทึบแสงอยู่แล้ว และควรนำถุงใส่ในกล่องที่มีฝาปิดสนิทอีกชั้นหนึ่ง ซึ่งการจัดหากล่องเก็บวัตถุดิบ
หรือส่วนผสมให้เป็นกิจลักษณะ เป็นระบบระเบียบ นอกจากจะช่วยให้การทำงานของพนักงานสะดวกมากขึ้นแล้ว
ยังช่วยจัดการระบบวัตถุดิบให้คุณไม่ต้องเสียของและเสียเงินไปฟรี ๆ
5.ระบบจัดการร้าน (POS)
การเลือกใช้ระบบจัดการร้านหรือ Point of Sale เป็นหนึ่งในผู้ช่วยสำคัญของร้านที่จะช่วยให้ธุรกิจร้านกาแฟของคุณ
สามารถดำเนินไปได้อย่างราบรื่น หากไม่มีระบบที่ได้ประสิทธิภาพ คุณอาจพบปัญหาเรื่องการบันทึกยอดขายตกหล่น
การคิดเงินผิดพลาด หรือแม้แต่ระบบจัดการวัตถุดิบที่ตัดปริมาณไม่ถูกต้อง ปัจจุบันโลกของเรามีเทคโนโลยีใหม่ ๆ
เข้ามาช่วยให้การทำงานสะดวกและเป็นระบบมากยิ่งขึ้น ทั้งยังจัดเก็บข้อมูลไม่ให้สูญหายได้อีกด้วย
สำหรับใครที่กำลังมีไอเดียอยากลงทุนเปิดร้านกาแฟวันนี้
แฟรนซ์บิซจะมาแนะนำ “แฟรนไชส์กาแฟ คัดมาแล้วว่าดี ” มาดูกันเลยว่ามีแบรนด์อะไรบ้าง

สำหรับใครที่กำลังมีไอเดียอยากลงทุนเปิดร้านกาแฟวันนี้ แฟรนซ์บิซจะมาแนะนำ
“แฟรนไชส์กาแฟ คัดมาแล้วว่าดี ” มาดูกันเลยว่ามีแบรนด์อะไรบ้าง
1. eXcoffee ร้านกาแฟที่มีความมีเอกลักษณ์ ด้วยคอนเซปท์เนอเชอรัลโมเดิร์น
ในโทนสีเขียว สบายตาเน้นรูปแบบ Grab & Go เหมาะกับ ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ วัยทำงาน
ค่าแฟรนไชส์รวมอุปกรณ์ :
Kiosk 295,000 บาท
Café 387,000 บาท
https://franzbiz.com/franchise/excoffee/

2. Ozene (โอ เซน) เป็นร้านคาเฟ่ที่ให้ผู้มาใช้บริการรู้สึกสบายๆ เป็นกันเอง
ผ่านสไตล์การตกแต่งแบบ Modern Minimal สุดเท่ห์ ที่ผสมผสานระหว่างความทันสมัย
ความเรียบง่ายได้อย่างลงตัว พร้อมกับการบริการที่เป็นกันเอง สำหรับเมนูที่ต้องห้ามพลาดคือ
Strawberry Latte, Yuzu Sparkling Espresso สูตรเฉพาะของร้าน
นอกจากนี้ยังมีอาหาร เครื่องดื่ม และขนมเบเกอรี่ให้ลิ้มลองอีกมากมาย
ค่าแฟรนไชส์พร้อมชุดอุปกรณ์
รูปแบบ Take Away : 180,000 บาท
รูปแบบ Cafe : 250,000 บาท

3. มอนต์ดาว แม็กซ์ (MONTDAO MAX) กาแฟอาราบิก้าแท้ 100% เข้ม เต็มแม็กซ์
ในราคาที่จับต้องได้ ดื่มได้ทุกวัน ตอบโจทย์ผู้ที่มีความชื่นชอบกาแฟที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร
การันตีคุณภาพด้วยประสบการณ์ การเป็นเจ้าของไร่กาแฟ กว่า 200 ไร่ ในอำเภอเชียงดาวจังหวัดเชียงใหม่
ค่าแฟรนไชส์ 129,000 บาท
https://franzbiz.com/franchise/mont-dao/

เตรียมตัวของคุณให้พร้อม แล้วมาลุยไปด้วยกัน!!
Inbox / comment สอบถามมาได้เลยค่ะ
โทรฝ่ายขาย 094-494-2696 / 094-552-2253
Line Official Account: @franzbiz (มีแอด)
ID Line : franzbiz
Website:http://www.franzbiz.com

เเช็คลิสต์ 5 สิ่งสำคัญต้องเตรียมให้พร้อมก่อนเปิดร้านกาแฟ!
การเปิดร้านกาแฟไม่ได้เป็นเรื่องน่ากลัวเสมอไปหากเรามีการเตรียมพร้อมที่ดี ทั้งในเรื่องการวางแผนธุรกิจและการจัดการระบบภายในร้าน แต่หนึ่งในขั้นตอนสำคัญของการเตรียมตัวเปิดร้านกาแฟคือ การเตรียมอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้พร้อม!
1อุปกรณ์และเครื่องชงกาแฟ
แน่นอนว่าอุปกรณ์สำคัญอันดับหนึ่งของการเปิดร้านกาแฟคงไม่พ้นอุปกรณ์และเครื่องชงกาแฟ ทั้งเครื่องทำกาแฟเอสเปรซโซ ทั้งเครื่องดริปกาแฟ จนไปถึงเครื่องบดเมล็ดกาแฟที่เราอาจเห็นร้านกาแฟหลายร้านใช้กัน
เจ้าของร้านควรให้ความสำคัญกับการเลือกอุปกรณ์เหล่านี้เป็นอย่างมาก ไม่ได้ส่งผลในเรื่องรสชาติมากนัก แต่เป็นเรื่องของคุณภาพในการทำงานซะมากกว่า เครื่องชงกาแฟแต่ละประเภทมีความแตกต่างกัน อยู่ที่ว่าจุดประสงค์ในการใช้งานคือสำหรับครัวเรือนหรือการทำธุรกิจ
สำหรับร้านกาแฟที่ต้องการเสิร์ฟกาแฟหลายแก้วต่อวัน ควรเลือกเครื่องชงกาแฟที่มีขนาดใหญ่ มีความเสถียรในการชง แรงดันและอุณหภูมิน้ำต้องสม่ำเสมอ ต้องมั่นใจได้ว่าสามารถรองรับการชงกาแฟหลายสิบแก้วในช่วงเวลาตอนเช้าที่อาจมีลูกค้ามาสั่งกาแฟเยอะเป็นพิเศษได้
2เครื่องปั่น
ราคาของเครื่องปั่นก็มีหลายแบรนด์หลายราคา สามารถใช้ได้ทั้งในธุรกิจขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ แนะนำให้เลือกเครื่องปั่นสมูทตี้แบบมอเตอร์กำลังวัตต์ 1,500 วัตต์ขึ้นไป ราคาเพียงสองพันกว่าบาทเท่านั้น!
3ตู้เก็บความเย็น
ซึ่งตู้เก็บความเย็นไม่ได้มีเพียงแค่ตู้สำหรับใส่เค้กหรือเบเกอรีที่ตั้งโชว์บริเวณเคาน์เตอร์ร้านเท่านั้น แต่ยังมีระบบเก็บความเย็นที่อยู่หลังเคาน์เตอร์อีกเช่นกัน การจัดการระบบตู้เก็บความเย็นเหล่านี้จึงต้องคำนึงถึงเรื่องการออกแบบ เพราะนอกจากจะเป็นเรื่องของความสวยงามของตู้โชว์แล้ว ยังเป็นการออกแบบเพื่อการทำงานที่สะดวกของพนักงานหรือบาริสต้าอีกด้วย
4.กล่องเก็บวัตถุดิบและขวดปั๊มส่วมผสม
เพราะร้านกาแฟต้องใช้เมล็ดกาแฟหรือแม้แต่ส่วนผสมที่ใช้กับเครื่องดื่ม อย่างท็อปปิ้งหรือน้ำเชื่อมไซรัปต่าง ๆ เราจึงไม่ควรละเลยเรื่องการเก็บรักษาส่วนผสมและวัตถุดิบเหล่านี้ โดยเฉพาะเมล็ดกาแฟที่ควรเก็บถุงกาแฟเป็นหลัก เพราะมีฟรอยทึบแสงอยู่แล้ว และควรนำถุงใส่ในกล่องที่มีฝาปิดสนิทอีกชั้นหนึ่ง ซึ่งการจัดหากล่องเก็บวัตถุดิบหรือส่วนผสมให้เป็นกิจลักษณะ เป็นระบบระเบียบ นอกจากจะช่วยให้การทำงานของพนักงานสะดวกมากขึ้นแล้ว ยังช่วยจัดการระบบวัตถุดิบให้คุณไม่ต้องเสียของและเสียเงินไปฟรี ๆ
5.ระบบจัดการร้าน (POS)
การเลือกใช้ระบบจัดการร้านหรือ Point of Sale เป็นหนึ่งในผู้ช่วยสำคัญของร้านที่จะช่วยให้ธุรกิจร้านกาแฟของคุณสามารถดำเนินไปได้อย่างราบรื่น หากไม่มีระบบที่ได้ประสิทธิภาพ คุณอาจพบปัญหาเรื่องการบันทึกยอดขายตกหล่น การคิดเงินผิดพลาด หรือแม้แต่ระบบจัดการวัตถุดิบที่ตัดปริมาณไม่ถูกต้อง ปัจจุบันโลกของเรามีเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาช่วยให้การทำงานสะดวกและเป็นระบบมากยิ่งขึ้น ทั้งยังจัดเก็บข้อมูลไม่ให้สูญหายได้อีกด้วย
สำหรับใครที่กำลังมีไอเดียอยากลงทุนเปิดร้านกาแฟวันนี้ แฟรนซ์บิซจะมาแนะนำ “แฟรนไชส์กาแฟ คัดมาแล้วว่าดี ” มาดูกันเลยว่ามีแบรนด์อะไรบ้าง

1. eXcoffee ร้านกาแฟที่มีความมีเอกลักษณ์ ด้วยคอนเซปท์เนอเชอรัลโมเดิร์น
ในโทนสีเขียว สบายตาเน้นรูปแบบ Grab & Go เหมาะกับ ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ วัยทำงาน
ค่าแฟรนไชส์รวมอุปกรณ์ :
Kiosk 295,000 บาท
Café 387,000 บาท

eXcoffee

2. Ozene (โอ เซน) เป็นร้านคาเฟ่ที่ให้ผู้มาใช้บริการรู้สึกสบายๆ เป็นกันเอง ผ่านสไตล์การตกแต่งแบบ Modern Minimal สุดเท่ห์ ที่ผสมผสานระหว่างความทันสมัย ความเรียบง่ายได้อย่างลงตัว พร้อมกับการบริการที่เป็นกันเอง สำหรับเมนูที่ต้องห้ามพลาดคือ Strawberry Latte, Yuzu Sparkling Espresso สูตรเฉพาะของร้าน นอกจากนี้ยังมีอาหาร เครื่องดื่ม และขนมเบเกอรี่ให้ลิ้มลองอีกมากมาย
ค่าแฟรนไชส์พร้อมชุดอุปกรณ์
รูปแบบ Take Away : 180,000 บาท
รูปแบบ Cafe : 250,000 บาท
3. มอนต์ดาว แม็กซ์ (MONTDAO MAX) กาแฟอาราบิก้าแท้ 100% เข้ม เต็มแม็กซ์ ในราคาที่จับต้องได้ ดื่มได้ทุกวัน ตอบโจทย์ผู้ที่มีความชื่นชอบกาแฟที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร การันตีคุณภาพด้วยประสบการณ์ การเป็นเจ้าของไร่กาแฟ กว่า 200 ไร่ ในอำเภอเชียงดาวจังหวัดเชียงใหม่
ค่าแฟรนไชส์ 129,000 บาท

Mont Dao(มอนท์ดาว)

เตรียมตัวของคุณให้พร้อม แล้วมาลุยไปด้วยกัน!!
📫Inbox / comment สอบถามมาได้เลยค่ะ
☎️โทรฝ่ายขาย 094-494-2696 / 094-552-2253
📲 Line Official Account: @franzbiz (มีแอด)
ID Line : franzbiz
🧑💻 Website: www.franzbiz.com

ข่าวอื่นๆ

ROI TOOL คำนวนการคืนทุนเบื้องต้น

Total Investment งบลงทุนรวม (THB) Duration of the franchise agreement อายุสัญญา ( ใส่จำนวน ปี เช่น 3 )
Rental/ ค่าเช่า (THB)
Wage/ ค่าแรง (THB)
Material cost/ ต้นทุนวัตถุดิบ % (ใส่ค่าเป็นจำนวนเปอเซนต์ เช่น 40)
Others/ค่าใช้จ่ายอื่นๆ % ( ใส่ค่าเป็นจำนวนเปอเซนต์ เช่น 4 )
Monthly Revenue ยอดขายต่อเดือน (THB)

Payback Period ระยะเวลาคืนทุน:

My ROI is (ผลตอบแทนจากการลงทุน)

TOTAL INVESTMENT งบลงทุนรวม:
Monthly Revenue ยอดขายต่อเดือน:
Monthly Cost ต้นทุนรายเดือน:
Monthly Profit กำไรต่อเดือน:
Duration of franchise agreement อายุสัญญา:
Breakeven จุดคุ้มทุน:
ติดต่อที่ปรึกษาการลงทุนแฟรนไชส์

Line: @franzbiz
Call: 094-494-2696 / 094-552-2253