ข้อควรรู้ถ้าอยากเป็นสุดยอดนักขายดิจิทัล


ข้อควรรู้ถ้าอยากเป็นสุดยอดนักขายดิจิทัล
1.ไม่ใช่สินค้าทุกชนิดสามารถปิดการขายในโลกดิจิทัลได้ทันที
สินค้าที่คนซื้อมีความเกี่ยวข้องด้วยสูง High Involvement Product
เป็นสินค้า ราคาแพง จำเป็นต้องมีการค้นคว้าหาข้อมูลระดับหนึ่งก่อนมีการตัดสินใจซื้อ
สำหรับนักขายดิจิทัล จะใช้ช่องทางออนไลน์หรือสื่อดิจิทัลในการนำเสนอข้อมูลสินค้าชนิดนี้เท่านั้น
แต่สำหรับการปิดการขายจะใช้ช่องทางปกติหรือไปปิดการขายด้วยการสนทนาลักษณะบุคคลต่อบุคคลมากกว่า
สินค้าที่คนซื้อมีความเกี่ยวข้องด้วยต่ำ Low Involvement Product
เป็นสินค้า ราคาไม่แพง ที่ไม่จำเป็นต้องใช้ข้อมูลในการตัดสินใจซื้อ
หรือสามารถตัดสินใจซื้อได้โดยไม่ต้องคิด สำหรับนักขายดิจิทัล จะใช้ช่องทางดิจิทัล
ในการกระตุ้นความต้องการซื้อของลูกค้ารวมถึงนำเสนอโปรโมชั่น
และที่สำคัญที่สุดสามารถปิดการขายได้ผ่านช่องทางดิจิทัลได้อย่างสมบูรณ์ทันที
2. ทำความเข้าใจการทำการตลาดออนไลน์ กับการขายแบบดิจิทัล
นักขาย หลายต่อหลายคน ยังมีความเข้าใจผิดหรือการไม่สามารถแยกหน้าที่
หรือความแตกต่างระหว่างการ ทำการตลาดออนไลน์ Digital Marketing
กับ การขายแบบดิจิทัล Digital Selling จึงทำให้การขาย
หรือการทำให้ยอดขายสินค้าเพิ่มขึ้นนั้นเป็นไปได้ยากหรือเรียกได้ว่าไม่ประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจ
หรือค้าขายสินค้าในช่องทางออนไลน์นั่นเอง
3.การขายแบบดิจิทัลมีหลายช่องทาง
ความเข้าใจผิดส่วนใหญ่ซึ่งเป็นกระแสตามเทรนความนิยมของ Social Network
ที่ 95 เปอร์เซ็นต์ของคนไทยในโลกอินเทอร์เน็ตใช้กันนั่น คือ Facebook
จึงทำให้นักขายทั่วไปเข้าใจว่าสินค้าทุกชนิดการขายทุกรูปแบบสามารถปิดการขายได้ผ่านช่องทาง Facebook
อย่างเดียวหรือมองเห็นแต่เพียง Social Media ที่เรียกว่า Facebook
เพื่อเป็นเครื่องมือในการขายอย่างเดียวเท่านั้นจนทำให้ลืมไปว่ายังมีอีกหลายรูปแบบ
เช่น Website, Google, tiktok, Youtube, twitter, Line, Instagram
ในช่องทางดิจิทัลที่ใช้นำเสนอสินค้ารวมถึงสร้างโอกาสการขายสำหรับนักขายดิจิทัลได้ดีกว่า Facebook ด้วยซ้ำ

หากต้องการที่ปรึกษาด้านการตลาดและแฟรนไชส์ ปรึกษาแฟรนซ์บิซ ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย
โทรสอบถามฝ่ายขาย : 094-494-2696
Line Official Account : @franzbiz (มีแอด)
Facebook : Franzbiz – Thailand’s franchising company
E-mail : franzbiz@franzbiz.com
Website : www.franzbiz.com

ข้อควรรู้ถ้าอยากเป็นสุดยอดนักขายดิจิทัล
1.ไม่ใช่สินค้าทุกชนิดสามารถปิดการขายในโลกดิจิทัลได้ทันที
สินค้าที่คนซื้อมีความเกี่ยวข้องด้วยสูง High Involvement Product
เป็นสินค้า ราคาแพง จำเป็นต้องมีการค้นคว้าหาข้อมูลระดับหนึ่งก่อนมีการตัดสินใจซื้อ สำหรับนักขายดิจิทัล จะใช้ช่องทางออนไลน์หรือสื่อดิจิทัลในการนำเสนอข้อมูลสินค้าชนิดนี้เท่านั้น แต่สำหรับการปิดการขายจะใช้ช่องทางปกติหรือไปปิดการขายด้วยการสนทนาลักษณะบุคคลต่อบุคคลมากกว่า
สินค้าที่คนซื้อมีความเกี่ยวข้องด้วยต่ำ Low Involvement Product
เป็นสินค้า ราคาไม่แพง ที่ไม่จำเป็นต้องใช้ข้อมูลในการตัดสินใจซื้อหรือสามารถตัดสินใจซื้อได้โดยไม่ต้องคิด สำหรับนักขายดิจิทัล จะใช้ช่องทางดิจิทัล ในการกระตุ้นความต้องการซื้อของลูกค้ารวมถึงนำเสนอโปรโมชั่นและที่สำคัญที่สุดสามารถปิดการขายได้ผ่านช่องทางดิจิทัลได้อย่างสมบูรณ์ทันที
2. ทำความเข้าใจการทำการตลาดออนไลน์ กับการขายแบบดิจิทัล
นักขาย หลายต่อหลายคน ยังมีความเข้าใจผิดหรือการไม่สามารถแยกหน้าที่หรือความแตกต่างระหว่างการ ทำการตลาดออนไลน์ Digital Marketing กับ การขายแบบดิจิทัล Digital Selling จึงทำให้การขายหรือการทำให้ยอดขายสินค้าเพิ่มขึ้นนั้นเป็นไปได้ยากหรือเรียกได้ว่าไม่ประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจหรือค้าขายสินค้าในช่องทางออนไลน์นั่นเอง
3.การขายแบบดิจิทัลมีหลายช่องทาง
ความเข้าใจผิดส่วนใหญ่ซึ่งเป็นกระแสตามเทรนความนิยมของ Social Network ที่ 95 เปอร์เซ็นต์ของคนไทยในโลกอินเทอร์เน็ตใช้กันนั่น คือ Facebook จึงทำให้นักขายทั่วไปเข้าใจว่าสินค้าทุกชนิดการขายทุกรูปแบบสามารถปิดการขายได้ผ่านช่องทาง Facebook อย่างเดียวหรือมองเห็นแต่เพียง Social Media ที่เรียกว่า Facebook เพื่อเป็นเครื่องมือในการขายอย่างเดียวเท่านั้นจนทำให้ลืมไปว่ายังมีอีกหลายรูปแบบ เช่น Website, Google, tiktok, Youtube, twitter, Line, Instagram ในช่องทางดิจิทัลที่ใช้นำเสนอสินค้ารวมถึงสร้างโอกาสการขายสำหรับนักขายดิจิทัลได้ดีกว่า Facebook ด้วยซ้ำ
หากต้องการที่ปรึกษาด้านการตลาดและแฟรนไชส์ ปรึกษาแฟรนซ์บิซ ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย
☎️โทรสอบถามฝ่ายขาย : 094-494-2696
Line Official Account : @franzbiz (มีแอด)
Facebook : Franzbiz – Thailand’s franchising company
E-mail : franzbiz@franzbiz.com
Website : www.franzbiz.com

ข่าวอื่นๆ

ROI TOOL คำนวนการคืนทุนเบื้องต้น

Total Investment งบลงทุนรวม (THB) Duration of the franchise agreement อายุสัญญา ( ใส่จำนวน ปี เช่น 3 )
Rental/ ค่าเช่า (THB)
Wage/ ค่าแรง (THB)
Material cost/ ต้นทุนวัตถุดิบ % (ใส่ค่าเป็นจำนวนเปอเซนต์ เช่น 40)
Others/ค่าใช้จ่ายอื่นๆ % ( ใส่ค่าเป็นจำนวนเปอเซนต์ เช่น 4 )
Monthly Revenue ยอดขายต่อเดือน (THB)

Payback Period ระยะเวลาคืนทุน:

My ROI is (ผลตอบแทนจากการลงทุน)

TOTAL INVESTMENT งบลงทุนรวม:
Monthly Revenue ยอดขายต่อเดือน:
Monthly Cost ต้นทุนรายเดือน:
Monthly Profit กำไรต่อเดือน:
Duration of franchise agreement อายุสัญญา:
Breakeven จุดคุ้มทุน:
ติดต่อที่ปรึกษาการลงทุนแฟรนไชส์

Line: @franzbiz
Call: 094-494-2696 / 094-552-2253