แฟรนไชส์สตรีทฟู้ดน่าสนใจ 2020

หากพูดถึง ปี 2020 นี้ คงไม่มีธุรกิจใดจะร้อนแรงมากไปกว่า “สตรีทฟู้ด“(Street Food) หรือ “ร้านอาหารข้างทาง” หนึ่งในวัฒนธรรมอาหารการกินที่พบเจอได้ในหลายๆประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะประเทศไทย ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นดินแดนของ “สตรีทฟู้ด”ที่มีมนต์เสน่ห์กระชากใจนักท่องเที่ยวต่างชาติ ให้มาเยือนใครที่ได้มาลิ้มลองต่างกล่าวตรงกันว่า สตรีทฟู้ดไทย มีดีตรงที่รสชาติอร่อย มีอาหารให้เลือกมากมายหลากหลาย มีขาย ทุกตรอกซอกซอย หากินได้เกือบๆ ตลอด24 ชั่วโมง ที่สำคัญคือราคาไม่แพง สามารถสั่งดิเลเวอรี่ออนไลน์มาทานที่บ้านหรือที่ทำงานก็ตอบโจทย์ด้านความสะดวกสบาย และ เทรนด์ new normal ในปัจจุบัน โดยวันนี้ทาง แฟรนซ์บิซ จะมาขอแนะนำ แฟรนไชส์ “สตรีทฟู้ด“(Street Food) ที่น่าลงทุน ในปี 2020

1. เด็ดกะเพรา แฟรนไชส์ ข้าวผัดกะเพรา

จุดเด่นของธุรกิจเด็ดกะเพราอยู่ที่วัตถุดิบหลักคือใบกะเพราแดง  จากสวนกะเพราของเกษตรกรไทย ที่ปลูกโดยใช้สารชีวภาพจุลินทรีย์ ในการปลูก ตามหลัก GAP (Good Agricultural Practices) ที่ปลอดภัย และดีต่อสิ่งแวดล้อม และจุดเด่นอีกข้อได้แก่ ที่มาของสูตร ซึ่งเป็นสูตรดั้งเดิม สมัยคุณยาย ที่เป็นสูตรที่ยายผัดให้กินโดยผัดแบบใส่พริกแห้งและใบกะเพราเท่านั้น เครื่องปรุงก้มีเพียงแค่น้ำปลาและน้ำตาลมะพร้าว ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นสูตรแท้ๆตำรับโบราณที่ตกทอดมารุ่นสู่รุ่น เด็ดกะเพราแบ่งประเภทแฟรนไชส์ เป็น 2 รูปแบบ แตกต่างกันที่เมนูสินค้า และรูปแบบร้านค้าได้แก่ ONLINE และ OFFLINE โดยในส่วน OFFLINE จะมีแบบ Take away (คีออส) และ แบบร้านอาหาร รูปแบบ ONLINE ค่าแฟรนไชส์แรกเข้า                                   2,000  บาท (อายุสัญญา 3 ปี) รูปแบบ Take away / ร้านอาหาร ค่าแฟรนไชส์แรกเข้า 20,000  บาท (อายุสัญญา 3 ปี) รายละเอียดเพิ่มเติม; https://franzbiz.com/franchise/dedkaprao/  

2. บะหมี่จับกังขั้นเทพแฟรนไชส์บะหมี่จับกัง หรือ บะหมี่หมูแดง

เริ่มต้นจากร้านเล็กๆในตลาดศาลายา ที่คุณปุ๋ม ผู้ก่อตั้งแบรนด์ ได้เปิดขายครั้งแรกเมื่อ เดือนเมษายน 2561 เพื่อเป็นอาชีพในการเลี้ยงดูครอบครัว ความเป็นเอกลักษณ์ของหมูแดง และน้ำราดหมูแดง ของคุณปุ๋ม ทำให้มีลูกค้าถูกอกถูกใจเป็นจำนวนมาก ในเวลาเพียง 2 ปี ร้านบะหมี่จับกังขั้นเทพ ก็สามารถขยายกิจการได้ถึง 5 สาขา โดยร้านบะหมี่จับกังขั้นเทพ เป็นร้านขายบะหมี่หมูแดงที่เหมาะกับคนทุกเพศทุกวัย รับประทานง่าย มีเอกลักษณ์ที่บะหมี่เส้นเล็ก เหนียวนุ่ม หอมกลิ่นไข่ กินทีเดียวอิ่มจุใจในราคาย่อมเยาว์ รวมถึงน้ำหมูแดงที่มีรสชาติเฉพาะตัว  นอกจากบะหมี่หมูแดง แล้ว ยังมีเกี๊ยวหมู เกี๊ยวกุ้งที่เป็นสูตรพิเศษของร้าน และเครื่องลูกชิ้นปลาที่ทางร้านคัดสรรใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพ เพื่อให้ลูกค้าได้รับความพึงพอใจสูงสุด บะหมี่จับกังขั้นเทพแบ่งประเภทแฟรนไชส์ เป็น 2 รูปแบบ แตกต่างกันที่เมนูสินค้า และรูปแบบร้านค้า มี 2 แพ็คเกจ รูปแบบ Take away คีออสสำเร็จรูป (อายุสัญญา 3 ปี)

• งบลงทุนรวม 119,900 บาท สิ่งที่ได้รับในแพ็คเกจ

รูปแบบ ร้านอาหาร (อายุสัญญา 3 ปี)

• งบลงทุนรวม 144,900 บาท สิ่งที่ได้รับในแพ็คเกจ

รายละเอียดเพิ่มเติม; https://franzbiz.com/franchise/bameejubkangkhanthep/  

3. ร้านทอดมันกวางตุ้งสีนวลแฟรนไชส์ทอดมันกวางตุ้ง

ร้านทอดมันกวางตุ้งสีนวล เปิดมาตั้งแต่ปี 1989 โดยคุณพ่อและคุณแม่ และสูตรนี้ได้มาจากคุณพ่อที่สืบทอดมาตั้งแต่รุ่น อาหงิ่น (ย่า ในภาษากวางตุ้ง) ก่อนที่จะมาเปิดร้าน แต่เดิมที่บ้านเป็นคนจีนกวางตุ้ง  ซึ่งที่บ้านก็จะทำอาหารกวางตุ้งทานเป็นส่วนใหญ่ และมีเมนูทอดมันกวางตุ้งเป็น 1 ในอาหารหลักที่ทำทานกันในครอบครัวตั้งแต่สมัยคุณพ่อยังเด็ก  คุณพ่อจึงได้นำเอาสูตรของทอดมันกวางตุ้งมาขาย ร้านค้าเป็นแบบ street food จะอยู่ตรงข้ามโรบินสันบางรัก ติดถนนตรงทางม้าลาย เป็นย่านเก่าแก่ ถนนเจริญกรุง ปัจจุบันร้านมีอยู่สาขาเดียว เมนูเอกลักษณ์ของร้านก็จะเป็น ทอดมันกวางตุ้ง จะมีด้วยกัน 2 สูตร คือ สูตรดั้งเดิม และสูตรพริกแกง ปกติแรกเริ่มจะมีแค่สูตรดั้งเดิม แต่คนไทยนิยมทานแบบมีรสพริกหน่อย เราจึงพัฒนาเป็นสูตรพริกแกงเพิ่มขึ้น เอกลักษณ์ของตัวทอดมันกวางตุ้ง คือจะทำจากปลาอินทรี เป็นชิ้นที่มีขนาดใหญ่ และไม่มีน้ำจิ้ม สามารถทานเปล่า ๆ ได้เลย นอกจากเมนูทอดมันกวางตุ้งแล้ว ยังมีเมนูอื่น ๆ อีก คือ  ปลาอินทรีสดทอด เป็นปลาอินทรีสดชิ้นใหญ่หมักพอดีทาน, ซาลาเปาทอด จะมีด้วยกัน 3 ไส้ คือ ไส้หมูแดง ไส้หมูสับ ไส้ครีม, ขนมจีบฮ่องเต้ (ขนมจีบทอด) มี 2 ไส้ คือ ไส้กุ้ง ไส้ปู, แฮกึ๊นฮองเฮา ไส้กุ้ง, เกี๊ยวซ่าไส้หมู , และในอนาคตกำลังจะมีเมนูใหม่มาเพิ่มขึ้นอีก ทุกเมนูจะขายดีหมด แต่ที่ขายดีที่สุดจะเป็นตัวทอดมันกวางตุ้ง แบ่งประเภทแฟรนไชส์ เป็น 2 รูปแบบ แตกต่างกันที่เมนูสินค้า และรูปแบบร้านค้า มี 2 แพ็คเกจ

1. รูปแบบTake away คีออสสำเร็จรูป (อายุสัญญา 3 ปี)

งบลงทุนรวม 70,000 บาท สิ่งที่ได้รับในแพ็คเกจ

2. รูปแบบFull Option (อายุสัญญา3 ปี)

งบลงทุนรวม 250,000 บาท สิ่งที่ได้รับในแพ็คเกจ รายละเอียดเพิ่มเติม; https://franzbiz.com/franchise/todmunseenuan/

4. แครบ แอนด์ ครก

    “ESAN SEAFOOD RESTAURANT” ก่อตั้งโดย คุณ นันทภัค อัศวรุจี บริษัท เจนอัศว จำกัด เมื่อปี พ.ศ. 2560  โดยก่อนที่จะเริ่มทำร้านอาหาร คุณ นันทภัค อัศวรุจี ได้ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับที่ดิน, อสังหาริมทรัพย์, พัฒนาที่ดิน, การเงินการธนาคาร, การตลาดสื่อโทรทัศน์ แต่ด้วยความชอบใน การทานอาหาร บวกกับ ประสบการณ์ด้านธุรกิจที่มีมา ทำให้ แครบ แอนด์ ครก ถือกำเนิดขึ้น แครบ แอนด์ ครก “ESAN SEAFOOD RESTAURANT”  เป็นร้านอาหารไทย-อีสาน ผสมซีฟู๊ด โดยเน้นปูเป็นหลัก ตามชื่อร้าน เมนูสินค้ามีความหลากหลายทั้งอาหารอีสานรสเด็ด โดยมีจุดเด่นที่น้ำปลาร้า วัตถุดิบคัดสรรอย่างดี สดใหม่ทุกวัน รสชาติอาหารที่อร่อยเป็นเอกลักษณ์ หน้าตารูปลักษณ์ที่สวยงาม และ สถานที่รูปแบบร้านของเรามีความยกระดับอาหารอีสาน ให้มีคุณภาพสูงกว่าร้านอาหารอีสานทั่วไป สามารถเลือกรับประทานได้ทั้งครอบครัว ทุกเพศ ทุกวัย ดังสโลแกน “สดทุกตัว แซ่บนัวทุกจาน” รูปแบบร้านอาหารขนาดเล็ก 50 ตรม. Initial franchise fee ค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์แรกเข้า รูปแบบร้านอาหารขนาดเล็ก ค่าแฟรนไชส์แรกเข้า 450,000  บาท (อายุสัญญา 6 ปี) รูปแบบร้านอาหารเต็มรูปแบบ 150 ตรม. Initial franchise fee ค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์แรกเข้า รูปแบบร้านอาหารเต็มรูปแบบ ค่าแฟรนไชส์แรกเข้า 850,000  บาท (อายุสัญญา 6 ปี) รายละเอียดเพิ่มเติม; https://franzbiz.com/franchise/crabandkrok/  

5. กระเพาะปลาเศรษฐ์ แฟรนไชส์กระเพราะปลา

    กระเพาะปลาเศรษฐี โดยสูตรนี้สืบทอดมากว่า 30 ปี ปรับปรุงพัฒนาสูตรให้เป็นตำหรับ”เศรษฐี หัวใจสำคัญ ของเมนูนี้ คือ น้ำซอสที่ปรุงด้วยเครื่องเทศชั้นดี กระเพาะปลาเกรดพรีเมี่ยม เราปรุงสดใหม่แบบ ชามต่อชาม สูตรนี้เป็นสูตรภัตาคารไม่ใส่หน่อไม้ เสิร์ฟเพียงชามละ 60 บาท เท่านั้น ผมยินดีมากทุกครั้งที่ได้ทำอาหารอร่อยๆ ให้ทุกคนได้รับประทานนะครับ จุดแข็งของธุรกิจที่ทำให้แตกต่างจากคู่แข่ง

1. ขั้นตอนการทำไม่ยุ่งยาก ปรุงสด ใหม่ รวดเร็วเพียงหม้อละ 3 นาที ก็พร้อมเสิร์ฟได้
2. ทุกขั้นตอนการเตรียมวัตถุดิบออกแบบมาให้มีความสะดวก ง่ายสำหรับผู้ลงทุนคือ ทุกขั้นตอนมีการชั่ง ตวงวัด ที่เป็นมาตรฐานและปริมาณที่ชัดเจน สามารถตรวจสอบได้
3. รสชาด หอม กลมกล่อมลงตัว เพราะวัตถุดิบที่ใช้คือ เครื่องเทศชั้นดี ที่เรามักนำมาใช้ในครัวเรือนสำหรับทำรับประทานเอง ดังนั้นจึงปราศจากสารปรุงแต่งที่เลียนแบบกลิ่นหรือรสชาด ทำให้มั่นใจได้ว่าผู้บริโภคจะได้ทานอาหารรสชาติอร่อยแบบทำจากในครับที่บ้านเราเอง
4. ราคา เราปรุงสด ใหม่ หม้อต่อหม้อ วัตถุดิบอย่างดี ในราคาเริ่มต้นเพียง หม้อละ 60 บาท เป็นราคาที่ผู้บริโภคสามารถจับต้องได้

ค่าแฟรนไชส์ราคา 32,000 บาท ที่ลูกค้าลงทุน จะมีอุปกรณ์การขายเบื้องต้นครบถ้วน พร้อมขายได้เลย รายละเอียดเพิ่มเติม; https://franzbiz.com/franchise/kra-po-pla-setthee/